กลับมาอีกครั้งกับรีวิวสมาร์ตโฟนรุ่นเล็ก ในราคาเบา ๆ ไม่เกิน 5,000 บาท คราวนี้เป็นการรีวิว realme C17 ซีรี่ส์เล็กที่ไม่ธรรมดา มาพร้อมกับหน้าจออัตรารีเฟรช 90Hz แบบเดียวกับโทรศัพท์ราคาแพง ๆ และยังมาพร้อมกับจุดเด่นในหลาย ๆ ด้าน และที่สำคัญคือในเรื่องของความคุ้มค่าต่อราคาที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์นี้ก็ยังคงทำได้ดีเช่นเคย แม้จะเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นก็ตาม
สำหรับอุปกรณ์ในกล่องของ realme C17 ประกอบไปด้วยตัวเครื่องที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้ว, อะแดปเตอร์ชาร์จไว 18W และสายชาร์จ USB to USB Type-C มีเคส TPU แถมมาให้ แต่ก่อนที่เข้าสู่รีวิว realme C17 ไปรับชมสเปคของสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กสุดคุ้มรุ่นนี้กันก่อนเลยครับ
สเปค realme C17
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 460 Kyro 240 octa-core ความเร็วสูงสุด 1.8GHz
- GPU Adreno 610
- RAM 4GB LPDR4x
- ROM 64GB UFS 2.1
- รองรับ micro SD Card สูงสุด 256GB
- หน้าจอ 90Hz Ultra Smooth Display ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 20:9 ความสว่าง 600 nits
- กล้องหลัง 4 ตัว Quad Camera ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 1080p/ 30fps
- กล้องหลัก 13MP f/2.2
- เลนส์มุมกว้าง Ultra wide-angle 8MP f/2.2 มุมมอง 119 องศา
- เลนส์ B&W Portrait 2MP f/2.4
- เลนส์มาโคร ถ่ายใกล้ได้ 4 เซนติเมตร 2MP f/2.4
- กล้องหน้า 8MP f/2.0 รองรับ HDR ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 1080p/ 30fps
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 + realme UI
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W (9V/ 2A)
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ถาดซิมแบบ 3-Card Slot
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0, Wi-Fi 2.4/ 5 GHz
- GPS/ AGPS/ Glonass/ Beidou
- realme C17 ราคา 4,999 บาท
DESIGN – การออกแบบ
realme C17 มาพร้อมกับหน้าจอ 90Hz Ultra Smooth Display ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ มีอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 อัตราส่วนหน้าจอต่อพื้นที่ด้านหน้าทั้งหมดคิดเป็น 90% เพราะฉะนั้นในการรับชมวิดีโอ หรือการเล่นเกมก็จะให้ความรู้สึกที่เต็มตาเลยครับ มีเพียงกล้องหน้า 8MP ที่ฝังอยู่ใต้หน้าจอบริเวณมุมซ้ายบนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กที่หน้าจอขนาดใหญ่เลยทีเดียว
ด้านความละเอียดระดับ HD+ กับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ส่วนตัวผมรับได้กับความละเอียดดังกล่าว แม้จะไม่ได้คมเท่ากับหน้าจอความละเอียด Full HD+ ที่มีขนาดเท่ากัน แต่ก็ไม่ได้เห็นเป็นเม็ดพิกเซลชัดเจนขนาดนั้น ในการใช้งานทั่วไป การรับชมวิดีโอ การเล่นเกม ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ถ้าเปิดอ่าน Text เยอะ ๆ เช่น การอ่าน Ebook ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้ล้าสายตาได้เหมือนกัน
โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือการที่หน้าจอ 90Hz Ultra Smooth Display มีอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 90Hz เลยทำให้การปัดหน้าจอไปมามีความลื่นไหลมากเป็นพิเศษ เวลาเลื่อนหน้า Feed บนโซเชียลมีเดีย จะเห็นความแตกต่างจากหน้าจอ 60Hz แบบปกติทั่วไปได้อย่างชัดเจน
ภาพรวมสำหรับหน้าจอของ realme C17 อยู่ในระดับที่ดีเลยครับ เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว แค่ได้อัตรารีเฟรช 90Hz ก็ถือว่าเกินมาตรฐานสมาร์ตโฟนราคาไม่เกิน 5,000 บาทไปแล้ว เรื่องสีสันก็แสดงผลได้สดใสในระดับหนึ่ง แล้วก็มีโหมดถนอมสายตา ที่ปรับหน้าจอให้เป็นสีโทนอุ่น เหมาะสำหรับใช้งานในที่แสงน้อย หรือตอนกลางคืน
รายละเอียดตัวเครื่อง realme C17 เริ่มจากด้านล่าง ประกอบไปด้วยพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ตชาร์จไฟแบบ USB Type-C, ลำโพงหลักและไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์ ส่วนด้านซ้ายมือเป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบ 3 Slot (2 Nano SIM + 1 micro SD Card) และด้านขวามือเป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด – ปิดเครื่อง กับปุ่มปรับระดับเสียง ความบางของ realme C17 ถือว่าบางทีเดียวครับ ในแง่ของการเป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh
ด้านหลังตัวเครื่องรีวิว realme C17 ผมได้รับมาเป็นสี Navy Blue มาพร้อมกับดีไซน์ฝาหลัง Glossy หรือแบบเงา สีน้ำเงิมเข้ม สะท้อนแสง ส่วนอีกสีที่วางจำหน่ายในไทยเป็นสี Lake Green ที่เป็นผิวแบบด้าน แต่ทั้งสองสีจะมีแสงสะท้อนเป็นแฉก ๆ ที่ตัวฝาหลัง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัญมณีล้ำค่า Cat’s Eye เข้ากันดีกับกล้องหลังในฐานสี่เหลี่ยมจตุรัสตามสมัยนิยม รายละเอียดบริเวณด้านหลังของ realme C17 ประกอบไปด้วยกล้องหลัง 4 ตัว AI Quad Camera และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณด้านหลังตัวเครื่อง วัสดุตัวเครื่องเป็นพลาสติก แต่ก็มีงานประกอบที่แน่นหนา แข็งแรง มีการเคลือบสารกันละอองน้ำที่ตัวเครื่อง รวมถึงช่องว่างต่าง ๆ
PERFORMANCE – ประสิทธิภาพ
realme C17 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 460 บนหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชสูง 90Hz Ultra Smooth Display ให้แรมมาที่ 4GB และความจุ 64GB โดยรวมก็ตามมาตรฐานสมาร์ตโฟนราคาไม่แพงมาก แต่ความน่าสนใจของชิป Snapdragon 460 มังกรรุ่นเล็กอยู่ที่การจัดการพลังงานที่ดีมาก แต่ก็ยังแรงในระดับที่เล่นเกมได้ในหลาย ๆ เกม ขึ้นอยู่กับการปรับตั้งค่ากราฟฟิกในเกม
ผมทดสอบกับเกม RoV พบว่ารุ่นนี้ก็ปรับตั้งค่าได้เกือบสุดอยู่เหมือนกัน ระดับภาพ HD ปรับได้สูงมาก เปิดโหมดเฟรมเรตสูงได้ ส่วนการเล่นเกมจริง ผมเชื่อมต่อกับ Wi-Fi 5GHz สามารถเล่น RoV ได้ที่เฟรมเรตเฉลี่ย 50 – 60 fps มีอาการเฟรมเรตตกบ้างเวลาทีมไฟต์หนัก ๆ แต่ส่วนตัวมองว่าถ้าจะให้ลื่นจริง ๆ แนะนำว่าปรับภาพ HD ในระดับกลางก็น่าจะเล่นได้ลื่นไหลกว่านี้
ด้านการจัดการพลังงาน รุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5000 mAh ในใช้งานจริง หากไม่ได้เล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานาน ผมว่า 1 วันครึ่ง – 2 วันชาร์จไฟครั้งหนึ่งยังได้ คือมั่นใจได้เลยว่าแบตเตอรี่อึดมากเกินใช้งานใน 1 วันอย่างแน่นอน อย่างตอนที่รีวิว realme C17 ผมชาร์จไฟเต็ม 100% แล้วก็สแตนบายยาว ๆ มีจับเครื่องมาทดสอบบ้าง สามารอยู่ได้เกือบ 1 สัปดาห์เลยทีเดียว และไม่เพียงแค่แบตเตอรี่อึด แต่ realme C17 ยังมาพร้อมกับระบบชาร์จเร็ว 18W อีกด้วย ครบเครื่องจริง ๆ
แต่ถ้าแบตเตอรี่ใกล้หมด realme C17 ก็มาพร้อมกับโหมดสุดยอดประหยัดพลังงาน Super Power Saving Mode ที่จะเปลี่ยนหน้าจอ UI ของเครื่องให้เป็นแบบเรียบง่าย แสดงสีให้น้อยที่สุด และผู้ใช้สามารถเลือกแอปที่ใช้งานบ่อยได้ 6 แอปพลิเคชั่น โดยในโหมดดังกล่าว ทาง realme ทดสอบแล้วว่าต่อให้แบตเตอรี่เหลือเพียง 5% ก็ยังสามารถใช้งาน WhatsApp ได้นานต่อเนื่องถึง 1.2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
SOFTWARE – ระบบปฏิบัติการ
realme C17 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันล่าสุดอย่าง Android 10 ครอบด้วย realme UI ที่เน้นเรื่องระบบสีที่สดใส High-saturation, ไอคอน, พื้นหลัง และแอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวของตัว UI นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งไอคอนได้ด้วยตัวเอง การใช้งานหน้าโฮมจะเป็นแบบ App Drawer แยกหน้ารวมแอปพลิเคชั่นออกจากหน้าหลัก
สำหรับฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน realme UI มีดังนี้ครับ
- Dual Mode Music Share: สามารถเชื่อมต่อหูฟ้งไร้สายได้พร้อมกัน 2 เครื่อง
- Focus Mode: เป็นโหมดที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลายจากโลกภายนอก โดยระบบจะเปิดเพลงฟังสบายๆ พร้อมเปิดโหมด DND (Do Not Disturb) เพื่อปิดการแจ้งเตือนที่รบกวนต่างๆ
- 3-Finger Selected Screenshot: ใช้ 3 นิ้วแตะค้างไว้ที่หน้าจอ เพื่อแคปหน้าจอ
- Personal Information Protection: ระบบป้องกันข้อมูลส่วนตัว
- Dark Mode: เปิดอัตโนมัติในเวลากลางคืน
- การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
– การประมวลผล: ระยะเวลา App Booting ลงลด 25% ความลื่นไหลเพิ่มขึ้น 20%
– แบตเตอรี่: อายุการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 10% ลดการใช้พลังงานเมื่อเปิดสแตนด์บายข้ามคืน 35%
– ประสิทธิภาพการทำงาน: ลดความดีเลย์ระบบสัมผัส 35% ประสิทธิภาพการเล่นเกมเพิ่มขึ้น 20%
CAMERA – กล้องถ่ายรูป
ด้านการถ่ายภาพ realme C17 มาพร้อมกับกล้องหลัง AI มากถึง 4 กล้อง Quad Camera ประกอบไปด้วยกล้องหลัก 13MPระบบโฟกัสแบบ PDAF, เลนส์มุมกว้าง 8MP, เลนส์มาโคร 2MP และเลนส์ B&W Portrait 2MP ในราคานี้มีกล้องมุมกว้าง ถือว่าน่าสนใจทีเดียว
โหมดถ่ายภาพที่น่าสนใจใน realme C17 นอกเหนือจากโหมดรูปภาพ ก็จะเป็นโหมดถ่ายคน ที่สามารถละลายฉากหลังได้ หรือจะเป็นไฮไลต์อย่างโหมดกลางคืน Super Nightscape แบบไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนมีความสว่าง และคมชัดมากยิ่งขึ้น
เปรียบเทียบระยะ Ultra wide/ Normal และ 2x Zoom
ภาพรวมสำหรับกล้องหลังของ realme C17 ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้สำหรับสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นครับ อย่างน้อยที่สุดก็คือได้กล้องมุมกว้าง Ultra wide-angle ช่วยให้ถ่ายภาพได้ในหลายมุมมอง หลายสถานการณ์ ตัว AI Scene ก็ช่วยปรับภาพให้สวยขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้มากมาย รวมถึงฟิลเตอร์ยอดฮิตอย่าง Cyberpunk, Modern Gold และ Flamingo (สามารถใช้ร่วมกับโหมด Super Nightscape ได้ด้วย)
ถ่ายด้วยโหมดกลางคืน + ฟิลเตอร์
ภาพที่ได้จากกล้องหลังของ realme C17 ก็ถือว่าเก็บรายละเอียดได้ดีในที่แสงเพียงพอ การโฟกัสค่อนข้างแม่นและเร็ว จากการที่ใช้ระบบโฟกัสแบบ PDAF โหมดถ่ายรูปแม้จะไม่ได้หลากหลายมาก แต่ก็ถือว่าให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนโหมดรูปคน หรือ Portrait การละลายฉากหลังผมว่าทำได้เนียนทีเดียวครับ
ภาพถ่ายด้วยโหมด Super Macro
สำหรับกล้องหน้าของ realme C17 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.0 รองรับโหมด AI Beauty พร้อม HDR และยังรองรับการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า
ตัวกล้องหน้าของ realme C17 ให้มุมมองที่กว้างทีเดียวครับ มี Auto HDR มาให้ด้วย ภาพรวมในการถ่ายเซลฟี่ หากเป็นที่แสงสว่างเพียงพอ ผมมองว่ารุ่นนี้ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง สามารถใช้แสงหน้าจอ แทนแฟลชในการถ่ายในที่แสงน้อยได้ ส่วนการมีโหมดรูปคน ช่วยให้ละลายฉากหลังได้ แม้จะพบว่ามีการตัดขอบพลาดบ้าง แต่ก็ถือว่ารับได้เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว
ส่วนการบันทึกวิดีโอ realme C17 รองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p/ 30fps ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แล้วก็ไม่มีโหมดกันสั่นวิดีโอมาให้ เพราะฉะนั้นตอนถ่ายวิดีโอ อาจจะต้องพยายามถือเครื่องให้นิ่ง หรือเคลื่อนไหวให้น้อยสักหน่อย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก realme C17
ภาพรวม รีวิว realme C17
ภาพรวมสำหรับ realme C17 กับราคา 4,999 บาท ก็ยังคงคอนเส็ปเดิมของ realme คือเน้นเรื่องความคุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนแบรนด์อื่น ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน (สมาร์ตโฟนราคาไม่เกิน 5,000 บาท) อย่างรุ่นนี้ก็จะโดดเด่นกว่าในเรื่องของหน้าจอขนาดใหญ่ อัตรารีเฟรช 90Hz ชิปประมวลผล Snapdragon 460 ที่พอจะเล่นเกมได้ รวมถึงกล้องหลัง 4 ตัว ที่มีเลนส์มุมกว้าง Ultra wide-angle อีกทั้งแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000 mAh พร้อมชาร์จเร็ว 18W เอาเป็นว่าด้วยสเปคที่ให้มากับราคาเปิดตัวที่ไม่แพงจนเกินไป ทำให้ realme C17 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งในช่วงราคาดังกล่าวเลยก็ว่าได้
จุดเด่นของ realme C17
- ราคานี้ ได้หน้าจอลื่น ๆ 90Hz และมีขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 460 แรงพอจะเล่นได้หลายเกม RoV, PUBG Mobile เล่นได้
- กล้องหลังมีเลนส์มุมกว้าง ถ่ายภาพได้หลากหลาย
- แบตเตอรี่อึด พร้อมมีชาร์จเร็ว 18W
- ตัวเครื่องงานดีไซน์สวย งานประกอบแน่นหนา และเคลือบกันละอองน้ำ
ข้อสังเกต
- หน้าจอ 90Hz Ultra Smooth Display ใช้งานได้แค่การปัดหน้าจอ การเล่นโซเชียล ไม่ได้มีผลกับการเล่นเกม
- ภาครับสัญญาณ Wi-Fi จับสัญญาณไกล ๆ ได้ไม่ดีนัก
The post รีวิว realme C17 หน้าจอ 90Hz ลื่นกว่าที่เคย ในราคา 4,999 บาท appeared first on Specphone.com.